ช่วงนี้อ่านหนังสือติดกันบ่อยขึ้นครับ อยากให้มันเป็นนิสัยติดตัวไปมาทดแทนการใช้มือถือของเราเอง ซึ่งตอนช่วงแรกๆเราเริ่มจากการอ่านวันละบท (ประมาณวันละ 10-20 หน้าแล้วแต่หนังสือแล้วแต่บท) ส่วนใหญ่จะอ่านเกิน 1 บทด้วยซ้ำ
.
หลังๆเริ่มนำเทคนิค Pomodoro มาใช้มากขึ้นนั้นคือการจดจ่อไปกับสิ่งใดสิ่งนึง ตัดสิ่งรบกวนออกในช่วงเวลา 25 นาที อุปกรณ์ที่ใช้มีแค่ดินสอ นาฬิกา และหนังสือที่เราอยากอ่านครับ แล้วอย่าลืมนำสิ่งรบกวนอย่างมือถือเราไว้ห่างๆตัวนะครับ
.
หนังสือที่เลือกอ่านวันนี้คือเล่ม “แค่นี้ก็ดีมากแล้ว”โดยอาจารย์นภดล ร่มโพธิ์ครับ มีอยู่ 45 บทสั้นๆรวมแล้ว 200 หน้าซึ่งผมว่าการอ่านจบภายใน 1 วันเป็นเรื่องที่เราทำได้แน่นอนก็เลยลองทำช่วงวันหยุดดูครับเป็นการ Challenge ตัวเองเล่นๆ (ลองสังเกตุนะครับ เราไม่ได้ซีเรียสว่าจะทำได้จริงรึเปล่า แค่อยากลองนะครับ เป็นการตั้งเป้าหมายไว้ แต่ถ้าทำไม่สำเร็จเราก็ไม่ได้กดดันอะไรตัวเอง เพราะสุดท้ายความสุขของผมมันอยู่ที่การอ่านไม่ได้อยู่ที่อ่านจบ)
.
การใช้เทคนิค Pomodoro นั้นผมว่าดีต่อการอ่านเพราะว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เราจดจ่อไม่นานเกินไปแถมหลัง 25 นาทีเราได้พักซัก 5 นาทีให้สมองเรียบเรียงข้อมูล ให้ดีลองใช้เวลาจดโน๊ตทบทวนพูดคุยกับหนังสือไปด้วย ทำซ้ำแบบนี้ 4 ครั้งอ่านจบเลยครับ ซึ่งบทเรียนที่ผมได้เรียนรู้จากการนำเทคนิคนี้มาปรับใช้คือ
.
-
คนที่อ่านหนังสืออเยอะ เขาอาจไม่ได้อ่านเร็วนะครับ เขาแค่มีเวลาจดจ่อกับมัน อยากจดจ่อกับอะไรลองใช้แค่ 25 นาทีครับ
-
เอาสิ่งรบกวนออกไปเลย ทำทีละอย่าง พวกโทรศัพท์เอาไว้ห่างๆได้ดีเลยครับเพราะถ้ามันอยู่ใกล้มือเรามองเห็นได้มันห้ามใจตัวเองค่อนข้างยากครับ
-
หลัง 25 นาทีอย่าลืมพักนะครับ ลองลุกขยับตัวไปดื่มน้ำหน่อย พักอย่างน้อยซัก 5 นาทีครับ
.
เทคนิคเสริมเวลาอ่านหนังสือ
.
- ใช้ปากกา ดินสอ หรือ Highlight ในการอ่านครับ
.
นอกจากจะใช้ขีดเขียนข้อความสำคัญจดโน้ตไว้เราลองใช้ปากกา ดินสอ หรือ Highlight ของเราในการเป็นตัวช่วยด้านการอ่านครับหรือนั้นคือ Visual Pacer นึกภาพตอนเด็กที่เราอ่านเราใช้นิ้วชี้ตามตัวอักษรครับ ผมว่าเทคนิคนี้ถือว่าช่วยมากยิ่งเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อาจมีสิ่งรบกวนเสมอ การที่เรามีอะไรช่วยชี้ทำให้สมาธิเราไปจดจ่อกับจุดๆนั้น
.
- เลือกหนังสือที่อ่านแล้วชอบ ไม่ใช่หนังสือที่เราควรอ่าน
.
มีข้อแตกต่างนะครับ หนังสือที่เราควรอ่านอาจเป็นหนังสือที่ท่านอื่นแนะนำแต่ด้วยสถานการณ์ของเรา อาจยังไม่ถึงเวลาของหนังสือเล่มนั้นๆบ้าง เราอาจยังไม่สนใจหนังสือเล่มนั้นบ้าง อย่าฝืนครับ เอาเวลามาจดจ่อกับสิ่งที่เราชอบดีกว่า
.
- คิดตามเสมอ ว่าเราสามารถนำข้อคิด/บทเรียนมาปรับใช้ในชีวิตเราได้อย่างไร
.
สุดท้ายการอ่านเร็ว อ่านให้จบผมว่ามันจะเป็นแค่ข้อมูลที่เราใส่เข้าไปในสมองครับ แต่การที่เราจะสามารถจำและดึงสิ่งนั้นมาใช้ได้ในชีวิตประจำวันคือการคิดตามครับ คิดว่าเราจะนำสิ่งนี้มาปรับใช้กับชีวิตเราอย่างไร หรือ… ลองหาวิธีเล่าเรื่องนี้ให้ท่านอื่นฟังในแบบฉบับความเข้าใจของตัวเองครับ เป็นการฝึกที่ดีเลยทีเดียวเพราะเมื่อเราได้เล่าต่อ เราได้เรียนรู้และทบทวนสิ่งนั้นอีกครั้ง
Credit รูปภาพ: Pomodoro icons created by Flat Icons - Flaticon
Comments (0)
To leave or reply to comments, please download free Podbean or
No Comments
To leave or reply to comments,
please download free Podbean App.