Tuesday May 02, 2023
Mr.Habit Diary 2023 EP17 10 บทเรียนด้านนิสัยและความสุขจากหนังสือ แค่นี้ก็ดีมากแล้ว นภดลร่มโพธิ์
ทุกปัญหามีหนังสืออย่างน้อย 1 เล่มช่วยเราได้เสมอ - นภดลร่มโพธิ์
สำหรับผมแล้ว หนึ่งในหนังสือเล่มนั้นผมขอยกให้ “แค่นี้ก็ดีมากแล้ว” เป็นเล่มที่อ่านได้เรื่อยๆ เพลินและสบายมาก แต่ที่สำคัญผมอยากหยิบบทเรียนที่ผมอ่านแล้วมันเข้ากับจังหวะชีวิตผมมาแชร์ให้ทุกท่านได้ฟังครับ ผมจะแบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ คือบทเรียนทางด้านการสร้างนิสัยและบทเรียนด้านความสุขครับ
บทเรียนทางด้านการสร้างนิสัย
- ทุกอย่างเริ่มต้นจากก้าวเล็กๆก้าวแรก
ถ้าเราไม่เริ่มก้าวแรกก็ไม่มีก้าวสอง สาม สี่ บางทีสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับผมคือการได้เริ่มทำครับ แต่เมื่อได้เริ่มทำเมื่อไหร่เดี๋ยวมันก้าวต่อไปได้เอง
- พอเห็นความก้าวหน้าเดี๋ยวแรงจูงใจจะมาเอง
ต่อจากข้อแรกเลย ถ้าเราได้เริ่มก้าวแรกแล้วมันได้ก้าวต่อไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ทำให้เราไปต่อคือการเห็นความคืบหน้าครับ ตัวอย่างในหนังสือจะไปด้านการอ่านการเขียนบ้างซึ่งสำหรับผมแล้วมันตรงมากเลย ยิ่งถ้าเรามีการวัดผลให้เห็นการก้าวหน้าที่ชัดเจนได้นี้เรายิ่งมีแรงจูงใจในการทำครับเช่นถ้าวิ่งแล้ววิ่งได้ไกลขึ้นเร็วขึ้นในเวลาเท่าเดิม อ่านหนังสือก็เห็นครับว่าแต่ละทีเราอ่านแล้วเรามาไกลแค่ไหน
- เพิ่มโอกาสการเห็นช่วงเวลามหัศจรรย์ได้แค่ทำให้เยอะทำให้บ่อย
อันนี้ผมมองถึงมุมมองที่เป็น Content Creator ด้วยเพราะการทำเพจให้โตทำ Podcast ให้โตเราต้องมี Content ที่ปังใช้ไหมครับ แต่ทำไปบางทีสิ่งที่เราคิดว่าดีไม่มียอดเข้าชมบ้างไม่เห็นมีคนมาอ่านบ้างเลย จนวันนึงลองโพสท์อะไรไปอยู่ดีๆก็เริ่มมีคนเห็นคนแชร์ถือเป็นช่วงเวลามหัศจรรย์เลยครับ แต่มันก็ไม่ได้มาบ่อยๆ ทั้งนี้ที่ผมอัด Podcast ถี่ขึ้น เขียนโพสท์เยอะขึ้นก็จะได้สร้างโอกาสให้เวลามหัศจรรย์นั้นมีมากขึ้นครับ
- การทำอะไรให้เป็นนิสัยแล้วยังไม่ได้แปลว่าเราจะเห็นผลลัพท์
แนวทางนึงที่อาจารย์นภดลกล่าวไว้ในหนังสือคือการทำอะไรให้ต่อเนื่องซัก 6 เดือนซึ่งผมว่าเป็นแนวทางที่ดีเลย เพราะมันจริงครับ ทำอะไรให้เป็นนิสัยแล้วไม่ได้แปลว่าเราจะเห็นผลลัพท์มันทันที อย่างน้อยเวลา 6 เดือนนี้ถ้าเราเปรียบเทียบกับตอนที่เราเริ่มเราน่าจะเห็นความก้าวหน้าที่ชัดเจนระดับนึงเลย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับนิสัยที่เราเลือกครับ บางอย่างยิ่งช่วงแรกๆเราเน้นไปที่การทำก่อน ทำให้มันต่อเนื่องเพราะถ้าเราทำแล้วคาดหวังผลที่เร็วไปมันจะท้อเอาครับ ทำเพราะมีความสุขกับการได้ทำด้วยยิ่งดีเลยครับ
- บางทีแค่ยังไม่ถึงเวลา
เรื่องบางเรื่องถึงแม้เราตั้งใจ เรามองว่าเป็นไอเดียที่ดีแต่ใช่ว่ามันจะสำเร็จเสมอไป ซึ่งบางทีมันแค่ยังไม่ถึงเวลาของมันครับ สำหรับผมแล้วบางเล่มที่อ่าน อ่านไม่นานเราวางลงไปแล้วหยิบเล่มอื่นมาแทน แต่พอเวลาผ่านไปเราลองย้อนกลับไปอ่านเล่มที่เราวางลงใหม่แล้วรู้สึกว่ามันตอบโจทย์ปัญหาที่เราเจออยู่ช่วงนั้น ก็ทำให้รู้ว่าทุกอย่างมันมีเวลาของมันครับ
บทเรียนด้านความสุข
- รู้จักมีความสุขให้ง่ายขึ้น มีความสุขที่เห็นคนอื่นสำเร็จ
อันนี้ชอบมากเพราะส่วนตัวชอบ Concept การฉลองชัยชนะเล็กกับการทำอะไรเล็กๆอยู่แล้ว เราไม่ต้องรอความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อย่างการได้รับการโปรโมทหรือขึ้นเงินเดือนหรอกครับ หาความสุขเล็กๆในแต่ละวันมาเติมเต็มใจได้ผมว่ามันยั่งยืนกว่า แล้วก็ฝึกมีความสุขเมื่อเห็นคนอื่นสำเร็จด้วยก็ดีครับ ยิ่งในโซเชียลมีเดียเห็นคนอื่นสำเร็จถ้าเราไปอิจฉาเขาคงมีแต่ทุกข์นะ ฉลองความสำเร็จของคนอื่น เอาเป็นแรงบันดาลใจแล้วเติมเต็มความสุขในแต่ละวันของตัวเองดีกว่าครับ
- ใช้เวลาให้คุ้มค่า เราจะได้ไม่เสียดายภายหลัง
ข้อนี้ผมหยิบเรื่องการใช้เวลากับการบริหารเงินมาครับ ผมชอบช่วงที่อาจารย์เขาเล่าว่าถ้าเรามีสิ่งที่อยากทำแต่มันต้องใช้เงินลองคิดดูว่าถ้าเราแก่ไปแล้วมีเงินเราจะมาทำสิ่งนี้ไหวไหม อ่านแล้วก็ตกผลึกได้ครับว่าถ้าในอนาคตเราไม่มีโอกาสได้ทำสิ่งนั้นแล้วถึงแม้ว่าเรามีเงิน เราเลือกที่จะทำสิ่งนั้นวันนี้เลยดีกว่าซึ่งอย่างนึงที่เราให้ความสำคัญมากขึ้นคือความสัมพันธ์ครับ ความสัมพันธ์ของครอบครัว เพื่อน สัตว์เลี้ยง จงใช้เวลาให้เต็มที่เราจะได้ไม่เสียดายภายหลัง
- อย่าไปฝากความสุขไว้กับใคร
เรื่องนี้มีตั้งแต่ความคาดหวังกับการพึ่งพาตัวเองครับ เราไปคาดหวังกับคนอื่นไม่ได้แปลว่าเขาจะทำตามเราเสมอนะ สุดท้ายผลเป็นยังไงความเจ็บมันขึ้นอยู่กับเราเนี้ยแหละที่คาดหวังแค่ไหน ส่วนเรื่องการพึ่งพาตัวเอง ถ้าเรามัวแต่ยึดติดว่าความสุขเราอยู่กับการกระทำของคนอื่นเราจะควบคุมความสุขของเราเองไม่ได้เลย รู้จักที่จะมีความสุขได้ด้วยตัวเอง
- อย่ามองข้ามความเป็นธรรมดาที่เราเจออยู่ทุกวัน
เราอยู่ในสังคมที่มองบนเสมอครับ…นั้นคือเราเปรียบเทียบกับคนด้านบนเสมอ ถ้ามนุษย์เรามีความสามารถพิเศษในการขยับรายจ่ายตามรายได้ในฉบับพี่หนุ่ม The Money Coach ผมว่ามนุษย์เราก็มีความสามารถพิเศษในการเปรียบเทียบตัวเองกับคนข้างบนเสมอเช่นกัน ซึ่งการที่เราจะมีความสุขได้มันเริ่มจากคำว่าพอ เราขอบคุณสิ่งที่เรามีไว้เพราะถ้าวันนึงสิ่งที่เราเห็นอยู่ทุกๆวันที่เรามองว่ามันธรรมดานั้นหายไปสิ่งที่เราอยากขอมากที่สุดก็เพียงแค่อยากได้สิ่งธรรมดาๆนี้กลับมา
- เมื่อประตูบานหนึ่งปิดลง ประตูอีกบานจะเปิดขึ้นเสมอ
ถ้าประตูบานหนึ่งปิดลงจริงๆ มันก็จะมีประบานใหม่เปิดขึ้นแต่เรามัวแต่ไปมองประตูบานเก่ารึเปล่า ถ้าโอกาสนึงปิดเราลองเรียนรู้จากความผิดพลาดและมองหาโอกาสใหม่ๆครับ
Source: แค่นี้ก็ดีมากแล้ว - นพดล ร่มโพธิ์
Comments (0)
To leave or reply to comments, please download free Podbean or
No Comments
To leave or reply to comments,
please download free Podbean App.