เรื่องเด็กวัดดอนเป็นเรื่องราวของดร.นิเวศน์ที่เคยมีฐานะยากจนมาก่อนแต่ด้วยความขยัน การเอาตัวเองออกจากกรอบ การใฝ่รู้เล่าเรียน และการวางแผนเขาได้ไต่จากเด็กสลัมขึ้นไปเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีของประเทศไทย
- ที่อยากโตเพราะโดนเหยียดมาก่อน
พ่อแม่ของดร.นิเวศน์เป็นผู้อพยพจากจีนมาเป็นคนงานก่อสร้าง คนจีนที่อพยพมาใช่ว่าทุกคนจะได้รับการปฏิบัติที่ดี จริงๆส่วนใหญ่โดนเหยียดด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีฐานะดีมาก่อนจะโตได้โอกาสแทบจะไม่มีเลย แต่ก่อนดร.นิเวศน์ไม่ได้มีชื่อนี้เขามีชื่อว่า เหงียน แซ่หว่อง ที่เปลี่ยนนามสกุลเพราะอยากมีนามสกุลไทย เขาอยากเป็นคนไทย แต่ด้วยนามสกุลใหม่ เหมวชิรวรากร ที่ยาวเฟื้อยก็โดนล้อเหมือนกันเพราะไม่มีคนไทยที่มีนามสกุลยาวอย่างนี้ ด้วยความที่ถูกเหยียดก็เป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เขาอยากโตขึ้น อยากเปลี่ยนสถานะ ซึ่งวิธีที่เขาเลือก เขาเลือกทำผ่านการศึกษา
- ไต่เต้าขึ้นมาได้เพราะการศึกษา
ดร.นิเวศน์ถือเป็นคนที่เรียนดีส่วนใหญ่จะได้ที่ 1 ที่ 2 ตลอด พอเรียนดีเขาก็เริ่มได้รับโอกาสไปเรียนกับคนที่มีฐานะสูงกว่า (อีลีท) ได้เรียนที่เตรียมอุดม เรียนต่อที่มหาลัยจุฬาคณะวิศวะ การศึกษาทำให้เขาได้อยู่กับสังคมอีลีท วิธีคิดของเขาก็ได้รับอิทธิพลจากกลุ่มสังคมที่เข้าได้มาอยู่ด้วย ส่วนนึงของความสำเร็จด้านการศึกษาเป็นผลพลอยจากความขยันที่ได้รับมาจากพ่อแม่ แต่ดร.นิเวศน์เองก็เป็นคนที่ใฝ่รู้ คอยหาความรู้ให้ตัวเองเสมอซึ่งแน่นอนว่าไม่พ้นการอ่านหนังสือและความขยันเรียน ด้วยการเรียนดีนำพาเขามาสู้สังคมที่ดีโอกาสทางด้านการงานและรายได้ก็เลยตามมาด้วยเช่นกัน แต่จุดที่เปิดโลกและให้โอกาสเขามากที่สุดคือช่วงที่เขาได้ไปศึกษาต่อที่อเมริกา ทั้งเจอคู่ชีวิต เจอโลกภายนอก และพบแนวคิดเรื่อง Value Investing (VI) สมัยที่ประเทศไทยยังไม่รู้จำคำว่าวีไอเลย สิ่งนี้เขาเรียกมันว่าเมล็ดพันธุ์ทางปัญญา
- จุดด้อยกว่าก็มีเยอะแต่ถ้าได้เตรียมตัวเมื่อไหร่เราชนะแน่
ในชีวิตของดร.นิเวศน์เขามักเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเสมอ เขายอมรับว่าเขาเป็นคนที่พูดไม่เก่ง จะให้ไปโต้วาทีกับคนอื่นถือเป็นสนามที่เขายอมรับว่าด้อยกว่าคนอื่น แต่สิ่งที่เขาบอกเสมอคือถ้าเขาเลือกสนามแล้วและเขามีโอกาสได้เตรียมตัวเขาชนะแน่ๆ การที่ดร.นิเวศน์ลงทุนในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งนอกจากความจำเป็นที่ต้องหาวิธีอยู่ให้ได้เพราะถูกเชิญออก เขาก็เตรียมตัวมาอย่างดี วิเคราะห์เกมจนรู้ว่ายังไงเกมนี้เราชนะเป็นแน่ ไม่ว่ายังไงก็เตรียมตัวเองให้ดี อ่านเกมให้ออก เลือกเข้าเกมที่เราไม่มีวันแพ้
- มุมมองแก้ว 3 ประการของการลงทุน
แก้ว 3 ประการของการลงทุนประกอบไปด้วย เงินต้น ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน และระยะเวลา
เงินต้นเราสามารถได้รับจากพ่อแม่ซึ่งสำหรับตัวดร.นิเวศน์เองก็ถือว่าแสงนี้ค่อนข้างลิบหลี่แต่อย่างน้อยเขาก็ทำงานหารายได้และเก็มออมเพื่อสะสมเงินต้นมาเรื่อยๆ
ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนสำหรับดร.นิเวศน์ที่เป็นสาย Value Investing (VI) นั้นเขาเลือกที่จะลงทุนในหุ้นที่ดีในราคาที่เหมาะสม ยิ่งเป็นช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งเขายิ่งค้นพบหุ้นดีราคาถูกเต็มไปหมด ในระหว่างที่คนโลภเราต้องกลัว แต่ขณะที่คนกลัวเราต้องโลภ (ทั้งนี้ควรศึกษาก่อนการลงทุนเสมอนะ)
ระยะเวลา ยิ่งมีเวลาเยอะยิ่งมีโอกาสที่เราจะได้เห็นผลตอบแทนของการลงทุนของเรา ถ้าเราเริ่มเร็วยิ่งดีแต่ก็ควรศึกษาว่าเราจะลงทุนอย่างไร สำหรับดร.นิเวศน์เองก็ถือว่าเขาเริ่มต้นช้าในอายุช่วงสี่สิบ แต่ทุกวันนี้ดร.นิเวศน์ก็ยังคงลงทุนอยู่ แถมยังรักษาสุขภาพเพื่อยืดเวลาในแก้วประการที่ 3 ของเขา
แน่นอนว่าจะทำให้แก้วทั้ง 3 นี้ส่องแสงสว่างได้นั้นต้องมีทั้ง “โชค” และความ “พยายาม”
- เป็นเศรษฐีแต่ใช้ชีวิตแบบงกๆ เพราะความสุขไม่ได้อยู่ที่การใช้เงิน
ถ้าลองมองชีวิตของมหาเศรษฐีคนนี้เราจะเห็นว่าเขาไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเลย บ้านก็ไม่ได้อยู่บ้านที่ใหญ่โตอะไร รถก็ไม่ได้ขับรถหรูๆ เขาเล่าว่าที่เขาใช้ชีวิตแบบงกๆนี้เป็นเพราะมันไม่มีความจำเป็น เขาไม่ได้ผูกความสุขไว้กับการใช้เงิน เขารู้ว่าความสุขของเขาอยู่ที่ไหน แถมนิสัยการเก็บออมก้เป็นนิสัยที่เขาได้มาแต่เด็กๆจากที่เป็นเด็กวัดดอนที่ยากจนมาก่อน
- แล้วทำไมเขาถึงยังลงทุนต่อละ?
การลงทุนสำหรับเขาก็คือความสุข เขามีความสุขที่จะได้ทำ การได้เห็นพอร์ตของตัวเองโตก็สร้างความสุขเล็กๆให้เขาแล้ว เราทำสิ่งที่มันมีความหมาย มันสร้างความสุขให้เราแล้วการทำงานจะไม่เหมือนการทำงาน
- ความคิดจะเปลี่ยนได้เราต้องใฝ่รู้ (แถม เป็น extra)
มุมมองต่างๆของดร.นิเวศน์นั้นได้มาจากการอ่านหนังสืออย่างเช่นเรื่องการเมืองที่แต่ก่อนเขาเป็นอนุรักษ์นิยมและเปลี่ยนเป็นเสรีนิยมซึ่งมันไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันแต่เป็นการเก็บความรู้เรื่อยๆจากการอ่าน การศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และการเมือง ซึ่งนอกจากการอ่านแล้วเขาก็สะท้อนความคิดตัวเองเสมอซึ่งสามารถเห็นได้จากบทความต่างๆที่เขาเขียน นอกจากนั้นเขายังเริ่มศึกษาเรื่องยีนและพฤติกรรมมนุษย์ ซึ่งเขาสามารถนำมาปรับใช้เป็นมุมมองการลงทุนและอธิบายพฤติกรรมของเขาได้เช่นกัน ยีนของมนุษย์ต้องการที่จะ “อยู่รอด” และ “สืบพันธุ์” เพราะฉะนั้นธุรกิจที่ตอบสนอง 2 สิ่งนี้ได้ก็จะมีโอกาสเติบโต เช่นธุรกิจความงามที่ไม่มีวันตาย การแต่งตัวดี ดูแลตัวเองให้ดีเพราะต้องการดึงดูดเพศตรงข้าม
Photo by Mathieu Stern on Unsplash
https://unsplash.com/photos/1zO4O3Z0UJA
Source: เด็กวัดดอน เล่าโดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เขียนโดย ชัชวนันท์ สันธิเดช
#เด็กวัดดอน #ดร.นิเวศน์ #ลงทุนแบบวีไอ
Comments (0)
To leave or reply to comments, please download free Podbean or
No Comments
To leave or reply to comments,
please download free Podbean App.